วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทิม เบอร์ตัน Tim Burton


ทิม วิลเลียม เบอร์ตัน (อังกฤษ: Tim William Burton) เกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1958 เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้สร้าง และนักเขียนชาวอเมริกัน เคยได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ เขามีชื่อเสียงกับผลงานในรูปแบบหม่น ๆ และแปลก ๆ อย่างเช่นหนังคัลท์สุดคลาสสิกของเขาเรื่อง Edward Scissorhands และ The Nightmare Before Christmas เช่นเดียวกับการกำกับในภาพยนตร์ซีรีส์ แบทแมน เขามีผลงานกำกับหนังเรื่องแรกคือ Pee-wee's Big Adventure ในปี 1985 หลังจากนั้นก็มีผลงานกำกับภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง ที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงและได้รางวัลออสการ์ เขามักจะร่วมงานกับนักแสดงที่สนิทกันอย่าง จอห์นนี เดปป์ เช่นเดียวกับ แดนนี เอลฟ์แมน และคู่สมรสเฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน
ในปี พ.ศ. 2553 ทิมได้รับเกียรติเป็นประธานคณะกรรมการตัดสินรางวัลภาพยนตร์ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 63 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม ถึง 24 พฤษภาคม ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส
ผลงานที่โด่งดัง ส่วนใหญ่นำแสดงโดย จอนนี่ เด็ป
แบทแมน (Batman, 1989)
 

เอ็ดเวิร์ดมือกรรไกร (Edward Scissorhands, 1990)

แบทแมนรีเทิร์นส์ (Batman Returns, 1992)

คนหัวขาดล่าหัวคน (Sleepy Hollow, 1999)

พิภพวานร (Planet of the Apes, 2001)

ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต (Charlie and the Chocolate Factory, 2005)

เจ้าสาวศพสวย (Tim Burton's Corpse Bride, 2005)

สวีนนีย์ ท็อดด์ บาร์เบอร์หฤโหดแห่งฟลีทสตรีท (Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street, 2007)


อลิซในแดนมหัศจรรย์ (Alice in Wonderland, 2010)

ดาร์ก ชาโดว์ (Dark Shadows, 2012)

 กรุณาติดตามบล็อกด้วยครับ ขอบพระคุณครับ


GOTHIC ศิลปะกอธิค

ศิลปะกอทิก (Gothic art) เริ่มต้นขึ้นประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 17 และมีอิทธิพลอยู่ประมาณ 350 ปีต่อเนื่องมาจากศิลปะโรมาเนสก์ พบในศิลปะศาสนาในการสร้างมหาวิหาร (Cathedral) พอถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ศิลปะแบบนี้ก็เผยแพร่ไปยังศิลปะในประเทศอื่นในยุโรปตะวันตกที่เรียกกันว่าศิลปะกอทิกนานาชาติ ศิลปะกอทิกนิยมกันมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 20 จึงเริ่มวิวัฒนาการมาเป็น ศิลปะสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาศิลปะแขนงสำคัญของสมัยกอธิคคือ ประติมากรรม งานกระจกสี จิตรกรรมฝาผนัง การเขียนลวดลายในหนังสือวิจิตร
ศิลปะกอธิคเริ่มต้นจากฝรั่งเศสและแพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ และมีลักษณะตามภูมิภาคนั้น ๆ ด้วย ลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมมีผนังเปิดกว้าง มีส่วนสูงเด่นเป็นพิเศษและมีแบบที่ออกมาเป็นลายเส้นอันซับซ้อน ทุกส่วนล้วนประกอบเข้าด้วยกันเป็นสัญลักษณ์นิยม ทางศาสนา โครงสร้างหลังคาเป็นโค้งแหลม ลักษณะต่างๆ เหล่านี้จะหาดูได้จากมหาวิหารในฝรั่งเศส, เยอรมนี และ อังกฤษ เช่น มหาวิหารแซ็ง-เดอนี (ฝรั่งเศส)มหาวิหารนัวยง (ฝรั่งเศส) มหาวิหารลอง (ฝรั่งเศส) มหาวิหารอามีแย็ง (ฝรั่งเศส) มหาวิหารกลอสเตอร์ (อังกฤษ) และ มหาวิหารเอ็กซีเตอร์ (อังกฤษ) เป็นต้น

ศิลปะกอทิกเป็นศิลปะที่เกิดในยุโรปช่วงระหว่างคริสต์ศตวรรษที่12-15 มีศูนย์กลางที่ฝรั่งเศส คำว่า"กอธิค" เริ่มใช้ครั้งแรกโดยนักวิจารณ์ศิลปะสมัยสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาตอนปลายของอิตาลี เรียกรูปแบบของศิลปะ ที่เกิดในยุโรปในช่วงเวลาดังกล่าวข้างต้น ที่เป็นผลงานของพวกกอท แฟรงก์ ลอมบาร์ค สลาฟ และแซกซัน ซึ่งต่างเป็นชนเผ่าป่าเถื่อน ไร้ความเจริญทางศิลปวิทยาการ ประการสำคัญ เป็นชนเผ่าที่ทำลายจักรวรรดิโรมันและถึงพร้อมด้านศิลปวิทยาการ

ดังนั้นถ้อยสำเนียงหรือนัยยะ ที่ใช้เรียกว่า "ศิลปะกอทิก" จึงเป็นการเรียกขานที่บ่งบอกไปในทางเย้ยหยันมากกว่าการชื่นชม เมื่อเปรียบเทียบกับคุณค่าศิลปะแบบกรีก-โรมัน ที่มีกฎเกณท์ชัดเจน ซึ่งในสมัยฟื้นฟูศิลปะได้รื้อฟื้นกลับมาปรับใช้ในยุคสมัยของตน จนเรียกชื่อยุคว่าเรอเนซองค์ หรือฟื้นฟูศิลปวิทยาการ หมายถึงย้อนกลับไปรื้อฟื้นศิลปวิทยาการแบบกรีก-โรมันขึ้นมาอีกนั้น จึงยิ่งส่งผลให้มองศิลปกรรมอันเกิดจากฝีมือของผู้ทำลายอาณาจักรโรมันยิ่งดูไร้คุณค่าไร้รสนิยมยิ่งขึ้น จนนักวิจารณ์บางคนในยุคเรอเนซองส์ใช้คำกล่าวหาศิลปะกอธิคค่อนข้างรุนแรงว่าเป็นศิลปะที่ "ไร้รสนิยม" และ"วิตถาร"

อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวยุโรปทั่วไปนอกจากอิตาลีแล้ว มักจะเรียกศิลปกรรมกอธิคอย่างยอมรับมากกว่าจะดูแคลน โดยพวกเขาจะเรียกศิลปะกลุ่มนี้เป็นภาษาละตินว่า Opus Modernum หรืองานสมัยใหม่

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สอนวาดการ์ตูนง่ายๆ

การวาดการ์ตูนมีหลายแบบครับ แต่วันนี้จะมาสอนวาดรูปครูปอนด์ครับ สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักครูปอนด์ คลิก ที่สอนวาดรูปนี้เพื่อให้ลูกศิษย์ทั้งหลายได้ไปประกาศศักดาแทนครูปอนด์ ในเวลาที่ครูปอนด์ไม่สบายนะครับ

1.เตรียมอุปกรณ์นะครับเตรียมปากกาหัวม้าตามรูปนะครับ ส่วนกระดาษไม่จำเป็นครับ สามารถเขียนตามกำแพง หรือประตูห้องน้ำก็ได้ครับ
2.เริ่มวาดตาด้วยการจรดปลายปากกา จุดกลมๆเล็กบนพื้นผิวครับ ตามภาพเลย
3.ต่อด้วยคิ้วครับ คิ้วนี้เป็นส่วนที่แสดงอารมณ์ส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้นควรทดในกระดาษ หรือไม่ก็ดูกระจกนะครับตามแต่อารมณ์ที่อยากวาด
4.ต่อไปคือส่วนที่สำคัญ และเป็นเอกลักษณ์มากๆของครูปอนด์ก็คือจมูกนั่นเอง เน้นความใหญ่นะครับ
5.ส่วนต่อมาก็เป็นส่วนแสดงอารมณ์เช่นเดียวกับคิ้วนะครับ คือปากนั่นเอง
6.ส่วนสุดท้ายครับ คือเครานะครับ ถ้าไม่อยากให้ดูแก่ก็ไม่ต้องวาด แต่แนะนำให้วาดนะครับ เพราะเป็นเอกลักณ์หนึ่งของครูปอนด์

จบไปแล้วนะครับ สำหรับการวาดรูปครูปอนด์ ครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่ง ขอบพระคุณครับ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ศิลปินที่โลกลืม

         เมื่อพูดถึงคำว่าศิลปิน หลายคนอาจจะนึกถึง ดารานักแสดงต่างๆ แต่ถ้าเจาะจงว่าศิลปินที่สร้างผลงานด้านศิลปะก็อาจจะนึกถึง ปีกัสโซ่ เลโอนาโด้ แวนโก๊ะ อะไรเทือกนั้น นั้นแสดงให้เห็นว่าคุณมีความรู้ทางด้านศิลปะน้อยมาก แต่ถ้าคนอยากเป็นคนที่ดูฉลาด เราก็ขอเชิญให้ท่านอ่านบทความนี้เพื่อลดความโง่ของท่าน เพราะสำหรับบางคนที่ฉลาดๆ เมื่อพูดคำว่าศิลปินเขาจะนึกถึง "ครูปอนด์ สอนศิลป์"
ครูปอนด์ ปีเอโร นาธาน สมยศ สอนศิลป์ หรือ ครูปอนด์ สอนศิลป์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ.101 โดยที่ที่เขาเกิดอยู่ห่างจากหมู่บ้านสอนศิลป์ ในประเทศวากันดา ไปราวสองกิโลเมตร บิดาชื่อนายสมยศ ปีเอโร นาธาน สอนศิลป์ เป็นเจ้าพนักงานกฎหมายของรัฐ มารดาชื่อคาตารีหน่อย เป็นสาวชาวประมง เคยมีคนอ้างว่านางคาตารีหน่อยเป็นทาสสาวจากประเทศแถบตะวันออกในครอบครองของปีเอโร แต่ก็ไม่มีหลักฐานเด่นชัด
ในสมัยนั้นยังไม่มีมาตรฐานการเรียกชื่อและนามสกุลที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในทวีปแอฟริกา ทำให้ชื่อและนามสกุลของ ครูปอนด์ ที่แท้จริงคือครูปอนด์ ปีเอโร นาธาน สมยศ สอนศิลป์ ซึ่งหมายความว่า ครูปอนด์ บุตรชายของสมยศ  แห่ง สอนศิลป์ แต่ครูปอนด์เองก็มักจะลงลายเซ็นในงานของเขาอย่างง่ายๆว่า ครูปอนด์ สอนศิลป์ หรือไม่ก็ข้าเองครูปอนด์ เอกสารสำคัญส่วนใหญ่ระบุว่าผลงานของเขาเป็นของ ครูปอนด์ โดยไม่มี สมยศ พ่วงท้าย ทำให้เข้าใจได้ว่าเขาไม่ได้ใช้นามสกุลของบิดาเนื่องจากเป็นบุตรนอกสมรสนั่นเอง
ผลงานส่วนใหญ่จะเป็นการวาดรูปหน้าตัวเองที่ประกอบด้วย คิ้ว ตา จมูก ปากและ เครา ตามที่สาธารณะ ส่วนมากพบตาม ห้องน้ำ กำแพง โต๊ะเก้าอี้ ตู้โทรศัพท์ โดยเฉพาะห้องน้ำชาย จะมีสุภาษิตพ่วงมาด้วย เช่น กูปอนด์พ่อทุกสถาบัน พ่อกูชื่อสมยศ 
เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับครูปอนด์ คือการปรากฎตัวในที่ต่างๆทุกมุมโลก อย่างน่าพิศวง บ้างก็ว่าเป็นการวาดภาพเหมือนสถานที่สวยๆ และวาดตัวเองลงไป คล้ายๆกับการประกาศสักดา ว่าเคยไปที่นู่นที่นั่นมา แต่ก็ดูจะเป็นไปได้ยาก